Straight Forward

วันนี้รถติดมากเลยนะ คงเป็นเพราะฝนตกด้วย เราติดอยู่ตรงถนนสาทรนานมาก เกือบ 1 ชั่วโมงได้ ฟังเพลงก็แล้ว อ่านไทม์ไลน์ในทวิตเตอร์ก็แล้ว ก็ยังเบื่อมากอยู่ดี ก็เลยมองอะไรไปเรื่อย แล้วสะดุดตากับป้ายโฆษณา SAMSUNG Smart TV ที่ขึ้น Copy ว่า “โทรทัศน์ที่สามารถจำหน้าคุณได้”

โทรทัศน์สมัยนี้ถึงขนาดจำหน้าเราได้ด้วยเหรอ (Face Recognition) อยากรู้ขึ้นมาทันทีว่ามันเป็นอย่างไร

ถ้าพูดถึง SAMSUNG นี่เป็นผู้นำเรื่องทีวีจริงๆ ทั้ง LED TV, LCD TV, Plasma ฯลฯ ดังนั้นนอกจาก SAMSUNG จะมี Smart Phone แล้ว เพื่อความไม่ธรรมดา ทีวีก็ต้องเป็น Smart TV ด้วย ซึ่งต้องทำอะไรได้มากกว่าการดูทีวี ยุคนี้สินค้าอย่างหนึ่งต้องทำอะไรได้หลายๆ อย่าง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้เยอะๆ มี Features มากมาย นอกจากดูรายการเปิดดูละคร ดูหนังแล้ว เราต้องการให้ทีวีทำอะไรได้บ้าง

ดูคลิปโฆษณาตัวนี้แล้วแบบ เอ๊ย เราไม่ต้องใช้ Remote Control กันแล้วสิเนี่ย (แต่ก็ยังมีรีโมทนะ เป็นแบบ Smart Touch Control) กลายเป็นสั่งงานด้วยเสียง (Voice Control) ควบคุมด้วยท่าทาง (Motion Control) เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้การใช้งานง่ายขึ้น สะดวกขึ้น อยากเปิดปิดทีวีก็พูดเอา เปลี่ยนช่องก็สั่งได้

ทันสมัยจริงๆ คลิปโฆษณานี้ตอบคำถามที่เราสงสัยได้เลยว่าโทรทัศน์จำหน้าเราได้จริงหรือ

ทั้งหมดทั้งมวลเรียกว่า Smart Interaction ที่ทำให้ได้ขนาดนี้ คงไม่มีข้อสงสัยแล้วว่าจะจำหน้าเราได้หรือเปล่า เพราะ Smart TV เครื่องนี้ทำได้มากกว่านั้นเยอะ

This video is sponsored by Samsung

Polar Bear

เราไม่เห็นด้วยกับการให้หมีขั้วโลก (Polar Bear) มาจัดแสดงอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เพราะมันคือการทรมานสัตว์ หมีขั้วโลกมีชีวิตอยู่แถบอาร์กติกที่มีอุณหภูมิหนาวเย็น วิวัฒนาการของมันได้ปรับเปลี่ยนให้ตัวมันมีชีวิตอยู่ได้ในอากาศหนาวเย็น ไม่ใช่อากาศร้อนมากแบบเมืองไทย

เราเป็นคนไทย เกิดและเติบโตในประเทศไทย เวลาอากาศร้อน แม้กระทั่งเป็นฤดูหนาวก็ยังร้อนมาก ยังทนไม่ไหว เป็นหวัดแดด หรือไม่สบาย ปวดหัวเลย ถ้าต้องเจออากาศร้อนๆ แล้วเจ้าหมีพวกนี้จะอยู่อย่างไร ถึงแม้จะบอกว่าเปิดแอร์ให้ตลอด มันก็ไม่ใช่ความหนาวเย็นที่เหมาะกับหมีเลย แม้กระทั่งหมีแพนด้าแบบหลินปิง อากาศหนาวเย็นที่จีนก็ยังเย็นกว่า

Polar bears can overheat very easily.  They need cold weather.
from Wikipedia

มันคือการทรมานสัตว์ ส่วนตัวเราคิดว่าการมีสวนสัตว์ควรจะเลิกซักที การที่เรามาดูสัตว์อยู่ในกรง มันไม่ใช่การศึกษา มันคือการมาดูสัตว์ทุกข์ทรมานเพราะไม่มีอิสระ มันนั่งเศร้า หดหู่ แล้วเราก็โยนอาหารให้มัน สวนสัตว์ได้รายได้ ได้นักท่องเที่ยว แต่สัตว์ล่ะ… มันก็มีชีวิตจิตใจนะ

แล้วการที่เราต้องเปิดแอร์อย่างหนักตลอด 24 ชั่วโมง มันก็เป็นการทำให้โลกร้อนขึ้น เมื่อโลกร้อน เหล่าสัตว์ในแถบอาร์กติก บ้านเกิดของหมีพวกนี้ ก็จะแย่ขึ้นเรื่อยๆ จะสูญพันธุ์กันหมดแล้ว เพราะน้ำแข็งละลาย

หมีขั้วโลกเป็นนักเดินทาง มันใช้พื้นที่ในการดำเนินชีวิต และเดินทางเป็นพื้นที่ครึ่งนึงของประเทศไทย

อันนี้เป็นข้อมูลที่อ่านมาค่ะ

ปัจจุบันสวนสัตว์หลายแห่งในอารยประเทศ เช่นสหราชอาณาจักร สวิสเซอร์แลนด์ หรือเยอรมนี ได้ยุติการจัดแสดงหมีขั้วโลกแล้ว ด้วยเหตุผลด้านสวัสดิภาพสัตว์เป็นสำคัญ

เราควรจะจริงจังกับการดูแลสัตว์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองไทยมานานแล้ว อย่างช้าง หรือควายไทย ซักที ช้างยังเดินร่อนเร่อยู่ริมถนนอยู่เลย

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดโครงการที่มีผู้คนร่วมคัดค้านได้ที่ http://www.facebook.com/SavePolarbear

ร่วมคัดค้านการจัดแสดง “หมีขั้วโลก” ของสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยช่วยกันส่ง ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ มาที่ WeSavePolarbear@gmail.com ก่อนวันประชาพิจารณ์ในอีกไม่นานนี้

โครงการนี้ริเริ่มโดย
ชมรมอนุรักษ์นกและธรรมชาติล้านนา
ภาคีคนฮักเชียงใหม่
เครือข่ายคุ้มครองสัตว์ป่าไทย
มูลนิธิโลกสีเขียว
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร