Category: Random Thoughts


Hot Chocolate and Whip Cream

ช็อคโกแลตร้อน ใส่วิปครีม นี้ชงให้โดย Miss Eclair ช่วงนี้เรานั่งทำงานจนถึง 6 โมงเช้าทุกวัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และแพ้อากาศ สมัยก่อนเวลาแพ้ก็แค่จามไม่กี่ทีตอนเช้า ตอนนี้กลายเป็นทั้งวัน น้ำมูกไหลตลอด จนปวดจมูก

เวลาเราทำงานดึกๆ จนเกือบเช้า น้องก้อยก็จะอยู่เป็นเพื่อน โดยการนั่งเล่นเกม หิวอะไรก็จะเอามาให้ และก็ชงช็อคโกแลตร้อนๆ มาให้กิน ขอบคุณน้องก้อยมากๆ ที่คอยดูแลกันในยามลำบาก

สมัยก่อนแม่เคยพูดว่าเวลาลำบากก็ดีเหมือนกัน จะทำให้เห็นว่าใครรัก และหวังดีกับเราจริงๆ เราก็ไม่ค่อยนำคำพูดนี้มาคิดเท่าไหร่ จนช่วงนี้ที่ได้พบว่าคำพูดนี้เป็นจริง คนบางคนเวลาคนอื่นลำบาก ถ้าไม่ได้จะมาช่วย ก็ไม่จำเป็นต้องมาพูดจาทับถมกันก็ได้ เหมือนได้ที

วันก่อนมีเงินอยู่ 500 บาท ในกระเป๋าตังค์ กำลังจะออกจากบ้าน คุณปราณีเดินมาหา ขอยืมเงิน แกคงไม่มีจริงๆ การต้องบากหน้ามายืมใคร ถ้าเค้าไม่ลำบากจริงๆ คงไม่มีใครอยากทำ แต่แกคงสุดๆ แล้ว เราเลยให้แกไป 500 บาทที่มีอยู่

เวลาแกไม่มีใคร สุดๆ ของแกคือ ยืมเงินพ่อ และก็เรา แต่สุดๆ ของเราแล้ว เราก็ยังมีโอกาสอื่นอีก

เราชอบ Quote อันนี้มากๆ เค้าบอกว่า …

I learned to give not because I have many, but because I know exactly how it feels to have nothing.

Why does time go by so fast?‎

รถไฟใต้ดินว่างแบบนี้เราไม่เคยได้เห็น เพราะปกติจะเจอแต่ช่วงเวลาคนเยอะ ในวันทำงานตอนเช้าและเย็น แต่เวลาที่ถ่ายภาพนี้คือ ตอนกำลังไปสถานีหัวลำโพง เวลา 9 โมงเช้า ของวันอาทิตย์

น้องก้อยไปถ่ายรูปหมู่ของคณะ ไว้ลงหนังสือรุ่น น้องก้อยกำลังจะเรียนจบแล้ว เวลาผ่านไปเร็วจัง ต่อไปน้องก้อยก็ต้องเป็นสาววัยทำงานแล้วสินะ คงเป็นอย่างที่พูดกันว่า เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว

In it to win it

ตอนไปหัวหินไปได้เลขเด็ดมา บอกกับน้องก้อยว่าถ้ากลับมาแล้วต้องซื้อให้ได้ เมื่อวันก่อนไปซื้อที่สีลม ได้เลขที่ต้องการมาแล้ว แต่ถ้าจะให้ตรงเลขที่ต้องการทั้งหมด 6 ตัว คงยากมาก

หยิบ GURU มาอ่าน ก็พอดีเป็นหัวข้อเรื่อง “In it to win it” พอดี หรือว่านี่คือ A Sign? 🙂

The Story of Stuff

คุณเคยสงสัยไหมว่าข้าวของที่เราซื้อมาจากไหน และจะไปไหนเมื่อเราโยนทิ้งไป ลองดูวีดีโออันนี้ของ Annie Leonard แล้วคุณจะช่วยกันเพื่อโลกใบนี้

เมื่อวันก่อนเรา และน้องก้อยไปเล่นบ้านทิน่า ทิน่าทำไก่อบให้กิน (ของโปรดของน้องก้อย) บ้านทิน่าอยู่ริมทะเลสาบ เราก็จะเห็นห่าน และเป็ด ว่ายอยู่ตรงบ้านทิน่า น่ารักมากๆ ทิน่าชวนไปให้อาหารมัน แล้วก็เล่าว่า

ทิน่าไม่ได้ซื้อมันมาเลี้ยง แต่ว่ามีอยู่วันหนึ่งพวกมันทั้ง 4 ตัว เดินเข้ามาในบ้านทิน่ากัน ตัวเล็กๆ เลย เป็นลูกเป็ดลูกห่าน เดินเรียงกันมา 4 ตัว เข้ามาบ้านทิน่า ตั้งแต่นั้นมาทิน่าก็เลี้ยงมันมาตลอด จนโตแล้วตอนนี้

เราว่ามันเป็นอะไรที่แปลกมากเลย ที่วันหนึ่งมีลูกเป็ดลูกห่าน เดินมาจากไหนไม่รู้ มาในบ้านเรา แล้วมันก็คนละสปีชี่กันเลยอ่ะ เป็นเป็ด และห่าน แต่มันก็อยู่ด้วยกัน ว่ายไปไหนด้วยกันตลอด เหมือนครอบครัวเดียวกัน

ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถไฟฟ้า หรือรถใต้ดิน สิ่งที่เห็นได้คือ ผู้คนไม่ค่อยชอบ “ชิดใน” ชอบยืนออ กันบริเวณประตู ถ้าเป็นรถเมล์คงมีกระเป๋ารถเมล์ คอยตะโกนให้ “ชิดในหน่อยเพ่” แต่พอเป็นรถไฟฟ้า กับรถใต้ดิน ต้องอาศัยประกาศอย่างสุภาพให้เดินเข้าไปด้านในขบวนรถ เพื่อให้ผู้โดยสารท่านอื่นเข้ามาได้ ซึ่งประกาศไปก็เ่ท่านั้น คนก็ยังยืนอยู่ที่เดิม เราสงสารผู้โดยสารสถานีถัดจากสีลมมาก เพราะแค่คนจากสีลมขึ้นมา มันก็เยอะมากแล้ว

เวลาชิดในของรถไฟฟ้า เราว่าดีออก เพราะเปอร์เซนต์การได้นั่งก็มี (ถ้ามีคนลุก) ถ้ายืนตรงประตู จะได้นั่งก็ต่อเมื่อรถโล่งมากแล้ว

ทำไมคนถึงไม่ยอมชิดใน ถ้าจากที่เราสังเกตคงเพราะมันเดินออกง่ายดี ไม่ต้องเบียดจากด้านใน ออกสู่ประตูได้เลย กับอีกเหตุผลก็น่าจะเป็น การโดน “จ้อง” จากคนที่นั่งอยู่ เพราะคนนั่ง ก็ไม่รู้จะเอาสายตาไปวางไว้ที่ไหน ถ้ามีคนมายืนตรงหน้า ก็ต้องจ้องมองในระดับสายตา ใส่กางเกงอะไร กระเป๋าอะไร รองเท้าอะไร

เราชอบเดินไปชิดด้านใน เพราะตรงประตูมันเบียดมาก แต่มีอยู่วันหนึ่ง ไม่มีใครอยู่ด้านในเลย มีเราคนเดียวโด่เด่ เกร็งมากเลย คิดในใจว่า กระดึ๊บๆ ไปที่ประตูดีไหมเนี่ย อิอิ

I’d Do Anything for Love (But I Won’t Do That)

วันนี้ทำงานไปด้วยก็ฟังเพลงนี้  I’d Do Anything for Love (But I Won’t Do That) ของ Meat Loaf ชื่อน่ากินเนอะ แต่เค้ามีชื่อจริงว่า Michael Lee Aday เป็นร็อคเกอร์ชาวอเมริกัน

เพลงนี้ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ release ในปี 1993 ซึ่งได้รางวัลแกรมมี่ด้วยนะ ในปี 1994 สาขา Best Rock Vocal Performance, Solo

ตอนนั้นเราก็อายุ 15 ปี สมััยนั้นดู Cable ที่ชื่อว่า SkyTV ดููช่องเพลงคือ Smile TV ที่มี Utt (อั๊ต) และ น้อย วงพรู เป็น VJ ซึ่งคุณน้อย ใช้ชื่อ Kris ในการเป็น VJ (มีใครทันบ้าง อิอิ)

ตอนเด็กๆ เราเคยสงสัยว่า ทำไมพ่อชอบฟังเพลงยุค 60’s เช่น Elvis, Cliff, Beatles and etc. แต่ตอนนี้เราเข้าใจแล้ว ทุกครั้งที่เราฟังเพลงที่เป็นยุคสมัยของเราเอง เราจะมีความสุข ในตอนที่พลังความเป็นวัยรุ่นยังคุกกรุ่น อิอิ

ฟังทีไรใจมันจะตึกๆ แล้วยิ่งตอนเรา 14-17 ปีเนี่ย ต้อง Rock ต้อง Alternative เลยนะ โยกหัว กระโดดกันมันส์สะใจ จำได้แม่นเลย ที่มหาลัยมีคอนเสิร์ต มี JoeyBoy และที่สำคัญมี อรอรีย์ ไม่เคยดูคอนเสิร์ตอะไรมันแบบนี้เลย ตอนอรอรีย์เล่นเพลง “แล้วเธอ” ทำให้เราเหมือนบ้าเลย กระโดดจนเหนื่อย

พอละกับการย้อนความหลัง นึกถึงเป็นบางครั้งบางคราว ให้ชุ่มชื่นหัวใจ

สิทธิ์ที่จะพูด

ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้โลกเรามันเป็นอะไรกันไปแล้ว หรือทุกคนคิดว่าโลกนี้มันมีเสรีภาพซะจน เรามีสิทธิ์ที่จะพูดอะไรก็ได้ ทุกคนลืมคำว่ามารยาทไปหรือเปล่า เมื่อกี้อ่านข่าว Kanye West ไปว่า Taylor Swift ในงาน MTV’s video awards ตอนเธอกำลังกล่าวขอบคุณสำหรับรางวัล Best Female Video นาย Kanye ไปแย่งไมค์มา แล้วก็มาพูดว่า รางวัลนี้สมควรเป็นของ Beyonce มากกว่า ทุกคนถึงกับเอ๋อกันไปหมด

วันรุ่งขึ้น นาย Kanye มาเขียนขอโทษ Taylor ในบล็อก (เพื่อ?) คุณทำลายโมเม้นที่ดีของเค้าไปแล้ว มันมีโมเม้นเดียว แล้วคุณก็มาขอโทษเนี่ยนะ

อีกกรณี Serena Williams ไปด่าว่าไลน์แมนหญิงเชื้อชาติเอเชีย ที่ไปจับ Foot Fault เธอว่า…

“I swear to God I’m fucking going to take this fucking ball and shove it down your fucking throat, you hear that? I swear to God. You better be glad — you better be glad that I’m not, I swear.”

มันน่าหดหู่จริงๆ

Crefin Vienna

Crefin Vienna

พี่นุ๊กให้ค่าจ้างการทำ Poster Stand ของร้าน Eat Me First เป็นทอฟฟี่ของ Crefin Vienna

เห็นแล้วตกใจเลย ไม่คิดว่าจะยังมีขายอยู่อ่ะ เพราะเป็นทอฟฟี่ที่กินตั้งแต่เด็กๆ แม่ชอบซื้อมาให้ จำได้ว่าชอบห่อทอฟฟี่มาก เห็นแล้วนึกถึงความหลังเก่าๆ เป็นเด็กนี่ดีจัง ไม่ต้องทำงาน ไม่มีอะไรต้องกังวล สบายๆ

แต่พอตอนเราเด็กๆ เราก็อยากเป็นผู้ใหญ่ จะได้มีอิสระ อยากทำอะไรก็ได้ทำ

ไม่มีความพอดีเลยเนอะ

Powered by WordPress | Theme: Motion by 85ideas.