Category: Movies


2012 วันสิ้นโลก

ไปซื้อของที่ Navamin Villa Market และตามปกติคือ น้องก้อยจะต้องซื้อ Daddy Dough อีกแล้วคับท่าน อิอิ (ตอนนี้เป็นช่วงกินโดนัท) น้องก้อยชอบเห่อกินอะไรเป็นพักๆ เดี๋ยวก็เบื่อ

จากนั้นเราจะไปประกันสังคม แต่ไปไม่ทัน มันปิดแล้ว ก็เลยไปเซ็นทรัลรามอินทรา ไปดูหนังเรื่อง 2012 วันสิ้นโลก รอบ 18.15 น. หนังก็สนุกดีนะ ตื่นเต้น แต่ว่ามันไม่ได้แบบประทับใจ ซาบซึ้ง มนุษยชาติรักกันอะไรมากมายแบบนั้น ยังไม่อิน

มานั่งคิดว่าถ้าเค้ามีการประกาศจากรัฐบาลว่าโลกจะแตก แล้วเราจะเตรียมตัวกันยังไง ถ้าหากเอาเงินทั้งหมดที่มีไปต่อเรือสุดไฮเทค แล้วถ้าเกิดมันไม่แตกล่ะ แบบความร้อนใต้โลกเกิดเย็นขึ้นกระทันหัน เพราะมีบลาๆ เลยไม่แตก

ตอนนั้นคงแบบ… I’m so fucked up!

วันพุธที่ผ่านมา พี่นุ๊กและพี่โอ๋เลี้ยงหนังเรากับน้องก้อย ไปดูหนังเรื่อง Law Abiding Citizen รอบ 18.00 น. ที่เซ็นทรัลรามอินทรา เปิดเรื่องมาก็โหดกันเลยทีเดียว เป็นหนังดีนะ น่าตื่นเต้นดี พระเอกจากเรื่อง 300 นี่โหดมาก

จากนั้นก็ดูเรื่อง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ รอบ 22.00 น. ก่อนดูหนัง เราก็ไปนั่งกินข้าวเย็นที่ S&P และก็ไปกินไอติม Swensen’s  หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดูแล้วยิ้มได้ทั้งเรื่อง สนุก และตลก เหมือนชีวิตสาวออฟฟิศจริงๆ เก็บทุกรายละเอียดดีจัง คริส หอวัง เล่นได้ดีจริงๆ หนังเรื่องนี้น่ารัก

The Time Traveler’s Wife

ชวนน้องก้อยไปดู The Time Traveler’s Wife ที่ Central World รอบ 21.40 น. เป็นหนังที่สนุกมากๆ ซึ้งสุดๆ น้ำตาไหลพรากๆ

ดูหนังจบแล้ว จะอยากกอดพ่อแม่ พี่น้อง และแฟน และไม่อยากใช้เวลาไปกับสิ่งไร้ประโยชน์อีกเลย

5 แพร่ง

5 แพร่ง

เมื่อวานหลังจากไปมอบเงินให้โครงการเพื่อนข้างถนนที่ลาดพร้าวแล้ว ก็ไป Central World ไปกินข้าวกับอ้อ และทิน่า ที่ Bar B Que Plaza หิวมากกกก กินเยอะจนอิ่มเลย

หลังจากนั้นก็ไปดู 5 แพร่ง รอบ 20.50 น. คือเรากับน้องก้อยเนี่ย ไม่ชอบดูหนังผีกันอย่างแรง เพราะว่ากลัวผี แต่ว่าเราก็ชวนน้องก้อยไปดูเอง เพราะว่าใครๆ ก็บอกว่า 5 แพร่งดีมาก และแพร่งของพี่ช่า ก็ตลกสุดๆ เราก็ไม่อยากพลาด น้องก้อยโวยวายตลอดว่าไม่อยากดู อิอิ

แต่พอเอาเข้าจริงๆ ตอนอยู่ในโรง เราหลับตาปี๋เลย น่ากลัวมาก มาแพร่งแรกก็สุดยอดแห่งความน่ากลัวแล้ว “หลาวชะโอน” ของน้องเก้า นี่แบบ พระเจ้า แค่ได้ยินแต่เสียง กับมองแวบๆ ก็แบบสุดๆ เลย

แพร่งที่สอง “ห้องเตียงรวม” ของคุณแดน ก็น่ากลัววววมากกก ยิ่งตอนแดนสวดมนต์ แล้วมีเสียงสวดทับมา นี่แบบกรี๊ดดด

แพร่งที่สาม “Backpacker” ของแน็ค เราว่าน่ากลัวน้อยสุดแล้ว

แพร่งที่สี่ “รถมือสอง” ของนิโคล ได้ยินแต่เสียง เพราะหลับตาปี๋ ได้ยินแต่คำว่า “พวงมาลัยไหม”

แพร่งที่ห้า “คนกอง” ของพี่ช่านี่เอง ที่เราได้กล้ามาดูแบบเต็มๆ คือฮามากกกก พี่ช่าเล่นตลกอ่ะ หัวเราะกันทั้งโรงเลย ชอบๆๆๆๆๆ

แหะๆ สรุปห้าแพร่ง เราดูแค่แพร่งเดียว กิกิ

Harry Potter and the Half-Blood Prince

ส่วนใหญ่คนที่อ่านหนังสือ Harry Potter มักจะบอกว่าเวลาดูเวอร์ชั่นหนัง จะไม่สนุก เพราะจะไม่ละเอียดพอ อ่านหนังสือจะมีรายละเอียดเยอะแยะ ก็คงเป็นเพราะข้อจำกัดด้านเวลา แค่นี้หนังก็ 3 ชม. แล้ว

แต่เราไม่ได้อ่านหนังสือ ตั้งแต่ภาคถ้วยอัคนี นั่นแหละ ทำให้เวลาดูหนัง เราก็รู้สึกว่ามันไม่ได้เลวร้าย เป็นหนังที่ดูแล้วไม่น่าเบื่อ ไม่หลับ แต่มันก็จะไม่ได้สนุกแบบสนุกม๊ากมาก ไรงี้

ภาคนี้มีฉากกุ๊กกิ๊กเยอะแยะ อิอิ นึกว่าดูหนังรักวัยรุ่น

หนีตามกาลิเลโอ

พอเลิกงานเสร็จแล้ว ก็นั่ง MRT และ BTS ไปหาน้องก้อยที่ Paragon ไปถึงตอน 19.00 น. น้องก้อยรออยู่ที่ Asia Book เพราะว่าน้องก้อยเดินไปหยิบ BK Magazine ให้เรา ตอนเราไปถึงน้องก้อยกำลังเลือกหนังสือให้เราเป็นของขวัญวันเกิด น้องก้อยเลือกไว้หลายเล่มมาก แล้วถามว่าเราอยากได้เล่มไหน เราตอบว่าอยากได้ทุกเล่ม อิอิ

น้องก้อยบอกว่าอยากซื้อหนังสือ web design ให้ แต่เราบอกน้องก้อยว่าไม่เป็นไรหรอก มันแพง เล่มล่ะเป็นพันเลย น้องก้อยยังไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้ ไม่อยากจะให้มาเสียเงินซื้อของแพงๆ น้องก้อยก็โวยวายใหญ่ จนต้องลากไปกินข้าวเย็นที่ Dairy Queen เรากิน Double Cheese Burger ไป อิ่มเลย

พอ 20.00 น. ก็ไปดูหนังเรื่อง “หนีตามกาลิเลโอ” กัน คือเป็นหนังที่อยากดูมาตลอด แต่พอไปดูแล้ว บอกตรงๆ ว่าผิดหวังมาก ทั้งๆ ที่พล็อตเรื่องออกจะดูดี แต่หนังไม่ได้ให้อะไรเลยพอดูเสร็จ ว่างเปล่า ไม่ได้รู้สึกอินไปกับเรื่อง หนังโปรโมทว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้ว จะทำให้อยากเดินทางไปต่างประเทศ ไปเรียนรู้ว่าโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางจักรวาล เราไม่เห็นรู้สึกแบบนั้นซักกะนิด

เฮ้อ ออกจากโรงหนังแบบเสียดายเงิน คิดว่า น่าจะอีกนิด คือ ลงรายละเอียดต่างๆ อีกนิด ความรู้สึกตัวละคร ความเป็นมาอีกนิด แต่หนังกลับไปให้ความสำคัญกับตัวละครที่ชอบปล่อยของสองสิ่ง ให้ตกลงมาในเวลาเท่ากัน ตลอดเวลา ไม่ได้สื่ออะไรเลย

พอออกมาจากโรงหนัง เราก็มาชอปปิ้ง เพราะเป็น Midnight Phenomenon พอดี น้องก้อยซื้อของขวัญวันเกิดให้เรา และเราสองคนก็ซื้อของขวัญวันเกิดให้แม่ด้วย

กลับบ้านน้องก้อยรอจนวันเกิดของแม่ไม่ไหว เพราะอีกนาน อยากให้แม่ได้ใช้เลย ก็เลยให้แม่ทันทีที่กลับถึงบ้าน แม่ดีใจใหญ่

รักพ่อแม่ พี่นุ๊กพี่โอ๋ น้องมูส และรักน้องก้อยจังเลย

The Secret of The Moonacre

the secret of the moonacre

เมื่อวานเลิกงาน ก็รีบไปเซ็นทรัลลาดพร้าว ไปเจอน้องก้อยที่ชั้นโรงหนัง น้องก้อยอยากดูเรื่อง The Secret of The Moonacre เราว่าดูจากโปสเตอร์แล้วต้องสนุกแน่เลย ดูรอบ 18.45 น.

ปรากฏว่าหนังไม่ได้เรื่องเลย เนื้อเรื่องก็ไม่ดี เทคนิคพิเศษก็แย่ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็ดูมั่วๆ นึกว่านั่งดูหนังจักรๆ วงศ์ๆ ที่ถ่ายทำที่สวนหลังบ้าน เรารู้สึกเสียดายเงินอ่ะ ไม่รู้คนอื่นนะ แต่ความคิดเห็นเรา เราว่ามันเป็นหนังที่ไม่ดีเลย

ดูหนังเสร็จก็ไปกิน Hachiban Ramen แล้วก็กลับบ้าน มาเล่นกับยัยคุณหนูมูส ซึ่งตัวโตขึ้นทุกวันเลย เราได้ออกกำลังกาย ก็เพราะพามันไปวิ่งนั่นแหละ น้องก้อยจูงมัน แต่เราวิ่งหนีมัน มันก็ไล่กวด เหมือนเราเป็นกระต่ายเลย คือพร้อมจะมางับเท้าตลอด

พี่นุ๊ก กับพี่โอ๋มาบอกข่าวดีว่า จะได้นำขนมต่างๆ ของ Eat Me First ไปขายที่สีลมแล้ว เย้ๆๆ ของเค้าดีจริงๆ เนอะ

Gossip Girl

เมื่อคืนดูซีรีย์ Gossip Girl กับน้องก้อยตอนตีสาม เปิด sub Thai แต่ซวยมาก ดันเป็น sub นรก เลยต้องเปลี่ยนเป็น sub Eng เลยเสริมสร้างภาษาอังกฤษไปเลย แต่ซีรีีย์สนุกดีอ่ะ แต่ดูไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็หลับปุ๋ยไปทั้งสองคน

วันนี้เอาโน้ตบุ๊คของน้องก้อยไปให้ที่ร้านดูอีกที ว่าอะไรเสีย ปรากฏว่า Ram เสีย เลยเปลี่ยนใหม่ ตอนรอก็เลยไปซื้อ card reader ให้พี่นุ๊ก และก็ซื้อเมาส์ไปใช้ที่ทำงานด้วย เพราะที่ทำงานเมาส์ใหญ่เกิ๊น

ตอนเราไปพันธ์ทิพย์ พี่นุ๊กพี่โอ๋ก็ไปเดินสยามฯ รอ จากนั้นก็ไปกิน Sukishi กัน เอร็ดอร่อย และก็ไปกิน Red Mango กัน ก่อนกลับบ้านซื้อโดนัทมาฝากแม่ ของ Bapple อร่อยมากกกกอ่ะ

Night At The Museum – Battle of the Smithsonian

Night At The Museum

เมื่อวันเสาร์หลังจากเลิกเรียนก็ไปกินก๋วยเตี๋ยวหมู แถวๆ Emporium อร่อยๆ และก็ไปดูหนังเรื่อง Night At The Museum – Battle of the Smithsonian ที่ Emporium รอบ 13.00 น. ก่อนหนังจะเข้าก็ไปเดินเล่นดูนิทรรศการ “กินไปเรื่อย” Quick Bites: Design for Better Eating ที่ TCDC เค้าทำดีมากเลย ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เราเห็นๆ อยู่ทุกวัน มันมีเอกลักษณ์แสดงถึงวิถีอยู่อย่างไทยๆ ได้ขนาดนี้

พอ 13.00 น. ก็เข้าไปดูหนัง แล้วเราก็หลับไป หนังไม่สนุกเลยยย มันน่าเบื่ออ่ะ เนื้อเรื่องแบบเอ่อ… ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เราหลับสนิทในทันที แถมในโรงก็มีแต่เด็กฝรั่งเต็มเลย ด้านข้างเราก็เด็กผมทองหน้าแก่ที่ชอบยกที่พิงแขนขึ้นลงตลอดเวลา ด้านน้องก้อยก็เป็นเด็กแขก ที่สูดน้ำมูกตลอดทั้งเรื่อง ด้านหลังก็มีเด็กถีบเก้าอี้ตลอดเวลา สรุปหลับดีกว่า

ตอนบ่ายๆ เย็นๆ ไปเดินเล่นที่สยามสแควส์ ตอนเย็นมากิน Pan Pan แล้วสุดท้ายก็ไป Isetan ไปซื้อ Panacotta มาให้พี่นุ๊ก กับพี่โอ๋ลองชิมดู

Powered by WordPress | Theme: Motion by 85ideas.