Rainbow Flag

ขอบคุณรูป Rainbow Flag สวยๆ จาก Wikipedia

Homophobia คือ คนที่รังเกียจบุคคลที่เป็นรักร่วมเพศ หรือเกย์ คุณจะทราบได้อย่างไรว่าคุณเป็น Homophobia หรือเปล่า วิธีง่ายๆ นะคะ คือ ถ้าหากทุกครั้งที่คุณได้พบได้เห็นเกย์ คุณเกิดความรู้สึกรังเกียจ โดยที่เค้ายังไม่ได้ทำอะไรคุณแม้แต่น้อย หรือ คุณชอบดูถูก หรือหัวเราะเยาะเย้ย คนที่เป็นเกย์ ไม่ว่าจะด้วยสรรพนามที่เรียก เช่น อิทอม อิตุ๊ด แต๋ว กระเทย หรือเรียกเกย์แทนด้วยคำว่า “มัน” หรือถ้าหนักๆ มาก คือการทำร้ายร่างกายเกย์ เช่น ผู้ชายบางคนอยากจะกระทืบกระเทย หรือทอม ทำนองนี้

ปัญหาเหล่านี้มีมาช้านานแล้วค่ะ ถ้าเห็นได้ชัดเจนในข่าวคือ พวกถือป้ายประท้วงด่าเกย์ เช่นเกย์วิปริต หรือให้ตกนรก เวลาที่เมืองนอกจะออกกฏหมายให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้ (ตัวอย่างอ่านได้จาก comment ใน entry นี้ค่ะ)

หนึ่งในความยากลำบากในการดำเนินชีวิตของเกย์ ก็มีนี่ล่ะค่ะ การได้พบเจอ หรือทำงานร่วมกับ Homophobia เขียนแล้วให้ความรู้สึกว่าเหมือนการแบ่ง Muggle, Half-blood และ Wizard เลยนะคะ การเป็นเกย์ในสังคมก็คงเหมือนคุณเป็น Half-blood ใน Hogwarts คือ การเป็นคนกลุ่มน้อย

ที่วันนี้อยากเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะว่าเมื่อเช้านี้ ได้พบเจอ Homophobia คนหนึ่งค่ะ กำลังรอลิฟต์ขึ้นไปที่ออฟฟิศ เราจะขึ้นไปชั้น 30 แต่ผู้ชายท่านนี้มากับกลุ่มเพื่อนหญิง-ชาย รอลิฟต์จะไปชั้น 27 คงจะทราบนะคะว่าออฟฟิศอะไรเอ่ยอยู่ชั้น 27 ของตึก….

ระหว่างรอลิฟต์ กลุ่มคนนี้ได้คุยเรื่องมีพนักงานเข้าใหม่มา ก็ถามไถ่กันว่าผู้ชาย ผู้หญิง หน้าตาเป็นไง หล่อสวยมั้ย ก็ตามปกตินะคะ แต่พอดีว่าคนเข้าใหม่ มีคนหนึ่งเป็นทอมค่ะ ผู้ชายท่านนี้ก็เลยพูดเสียงดังว่า โธ่ ทอมเหรอ เซ็งว่ะ …

เพื่อนๆ เค้าเห็นว่าเรายืนเป็นหุ่นขี้ผึ้งทอมอยู่ข้างหลัง ก็พยายามสะกิดให้ผู้ชายท่านนี้เบาๆ หน่อย ประมาณว่า เฮ้ย… มีทอมอยู่ข้างหลังหนึ่งคนน่ะ แต่ผู้ชายท่านนั้นกำลังเมามัน ก็เลยพูดต่อว่า

“เห็นทอมแล้วอยากเตะ” ….

แล้วลิฟต์ก็เปิด ทำให้เราทั้งหมดต้องเข้าไปในลิฟต์ ผู้ชายท่านนั้นจึงเพิ่งเห็นเรา แล้วเขาก็เงียบไป และหันไปมองเพื่อน แล้วหัวเราะกิ๊กกั๊กกัน ประมาณว่าซวยแล้ว

ความรู้สึกตอนนั้นมันคือความชิน เพราะว่าเจอแบบนี้บ่อยมากๆ เวลาไปยืนตรงไหน แล้วตรงนั้นเค้ามีการทำตลกเรื่องทอม หรือกระเทย อะไรแบบนี้ แต่มีอีกความรู้สึกหนึ่งคือ เราสงสารทอมคนที่เข้ามาทำงานใหม่คนนั้น เค้ายังไม่ทันจะได้รู้จักใคร หรือแสดงความสามารถอะไรเลย ก็โดนเกลียดซะแล้ว บางทีผู้ชายคนนั้นต่อหน้าอาจจะยิ้มแย้มกับทอมคนนั้น แต่ลับหลังแกก็เป็นแบบนี้ แย่เลยนะคะ

เคยได้ยินสาวออฟฟิศเมาท์ ดีเจเอกกี้ โดยเรียกว่า เอกกี้ว่า “มัน” พูดว่าสมัยก่อนอยู่บอยแบนด์ได้ไง และก็หาว่าเดี๋ยวนี้สะดิ้ง เป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว ฟังแล้วเราก็เศร้าใจ เอกกี้น่ะเค้ามีความสามารถมากกว่าคุณแค่ไหน เค้าเป็นนักร้อง เป็นดีเจ เป็นพิธีกร แต่คุณกลับไปพูดจาดูถูกเค้า ไปเอาเค้ามาเป็น joke

เกย์เป็นคนส่วนน้อยของสังคม ซึ่งสำหรับเรา การเป็นคนส่วนน้อย ก็มีเช่น การถนัดซ้าย เพราะโต๊ะเลคเชอร์ก็มีที่วางแขนแค่ด้านขวา กรรไกรก็สำหรับคนมือขวา จะนั่งกินข้าวก็กลัวมือไปชนคนอื่น ต้องนั่งด้านซ้ายสุด เวลาเขียนปากกาหมึกซึม เขียนๆ ไปมือก็กวาดหมึกที่เพิ่งเขียนไปเปื้อนหมด เมาส์ก็อยู่ด้านขวา เพราะฉะนั้นชินชาแล้วที่จะเป็นคนส่วนน้อยของสังคมอีกแบบ คือเป็น Homosexual

เคยอ่านในนิตยสารของผู้หญิง จำไม่ได้ว่าเป็น Cleo หรือ Elle เค้าเขียนถึง Homophobia ในแง่ว่า ผู้ชายแท้ๆ ไม่รังเกียจเกย์ จะไม่รู้สึกอะไรใดๆ และก็สามารถเป็นเพื่อนได้ และมีมารยาทกับเกย์ แต่ผู้ชายที่แสดงออกมากๆ ว่าเกลียดเกย์นั้น

1. เป็นเกย์ซะเอง

2. เป็นโรคจิต คือ ในวัยเด็กอาจมีประสบการณ์ไม่ดีกับเกย์ หรือเติบโตมาในครอบครัวที่ผู้ชายเป็นใหญ่มากๆ เลยมีความคิดที่ถ้าไม่ใช่ผู้ชาย ไม่เป็นชาย มันไม่ใช่เรื่องดี

หนังสือกล่าวว่า Real Man คือคนที่ให้เกียรติคนทุกคน ผู้ชายทุกคนใช่ว่าจะเป็น Real Man กันได้ง่ายๆ อาจจะเป็นได้แค่ “ผู้ชาย” ก็ได้

“Having a dick makes you a male, not a  man”.

ยกตัวอย่างรุ่นพี่ผู้ชายที่เราเคารพคนหนึ่ง แกให้เกียรติเกย์ ทอม ดี้ กระเทยทุกคนเลยในออฟฟิศ น่ารักมากๆ หรือคุณพ่อของเราเอง คุณพ่อไม่เคยมีทัศนคติแย่ๆ กับเกย์ กระเทย เลยแม้แต่น้อย

เคยได้ยินคำของฝรั่งมั้ยคะ เค้าบอกว่า Homophobes are really gay. จริงไม่จริง ไม่รู้สินะคะ เพราะไม่เคยเป็น อิอิ

เมื่อไหร่ที่การทำงานเราจะเลิกตัดสินกันที่เพศ (judged based on sex and looks) ยกตัวอย่างเช่น

B.A. (Beauty Advisor) ตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางค์ คุณเคยสังเกตมั้ยคะว่า B.A. ที่เก่งๆ คือเกย์ บางทีที่เห็นเยอะๆ คือ พี่เกย์บางคน ยิ้มแย้ม แจ่มใส แนะนำสินค้าด้วยความร่าเริง เป็นกันเอง มากกว่า B.A. ผู้หญิงแท้หน้าหงิกๆ ทำหน้าเริ่ดๆ ซะอีก

และที่ร้านยำแซ่บ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ที่นั่นจะมีน้องเกย์ น่ารักๆ คอยต้อนรับ และเอาใจใส่ลูกค้า ผิดกับหญิงแท้ที่สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ ที่หน้าหงิกตลอดเวลา

คือที่ยกตัวอย่างมานี่คือ จะแสดงให้เห็นว่าศักยภาพในการทำงาน ในคุณค่าของตัวเรา ไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณเป็นเพศอะไร คุณดูเป็นยังไง

ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคล ความคิด ทัศนคติ การกระทำของคนนั้นๆ เกย์บางคนอาจจะไม่ดี ก็เหมือนชายแท้ หญิงแท้ บางคนก็ไม่ดีไปทั้งหมด เมื่อไหร่ที่เราจะเลิกเกลียดกันตั้งแต่ยังไม่เคยรู้จักกันซะที

Quote ประจำ Entry นี้คือ (เหมือนนิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเลยเนอะ) เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ถูกเกลียดทุกคน 🙂
Before asking someone why they hate you, ask yourself why you even really care.

ปล. พอดีมี comment เข้ามา เห็นว่าน่าจะเข้ากันได้ดีกับ entry นี้ จากคุณ God hates fags (saizaa_saikoko@hotmail.com)

พวกผิดธรรมชาติเดี๋ยวนี้กลายเป็นเรื่องปกติแล้วหรอ ? แย่จัง …
แล้วคอยดูพระเจ้าจะจับพวก เกย์ เลสเบี้ยน ดี้ ทอม โยนบึงไฟนรกโดยพระหัตน์ของพระองค์เอง เอเมน

มีบทความน่าสนใจเรื่อง Employees Should Be Judged on Performance, Not Sexual Orientation or Gender Identity มาแนะนำค่ะ