Category: Ordinary Life


คะแนน CU-TEP ออกแล้ว

คะแนน CU-TEP

เพิ่งเข้าไปเช็คผลสอบ CU-TEP ในเว็บของศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นคะแนนแล้วก็โอเคนะ สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือมา ถ้าเราไปติว CU-TEP ก็คงจะได้คะแนนสูงกว่านี้ แต่อันนี้ไม่ได้ติว แล้วไปสอบเลย ก็ควรจะพอใจเนอะ

ปล. สำหรับคนที่อยากติว CU-TEP แนะนำโรงเรียนเฮ้าส์ ออฟ กริฟฟิน ดูรายละเอียดที่นี่ www.houseofgriffin.com

Sunny Sunday

ชาชักที่ตลาดนัดจตุจักร

เมื่อวานไปเดินจตุจักรกับน้องก้อยมา ว่าจะไปหาหน้ากากมาไว้สำหรับการเต้นเพลง Nobody ในงานเลี้ยงปีใหม่ของออฟฟิศ ปรากฏว่าไม่ได้หน้ากาก (สงสัยต้องไปซื้อที่สำเพ็ง) แต่ได้หมวก กับกระเป๋าผ้า (ไว้ลดการใช้ถุงพลาสติกมา) ส่วนน้องก้อยได้แหวน กับกำไลมา และก็ไปเดินดูหมา มีเจ้าหมาบีเกิ้ลด้วย แต่มันดูผอม และก็เหมือนจะป่วยมาก เห็นแล้วก็สงสารจัง ถ้ามีเงินก็อยากซื้อ อยากเอามาเลี้ยงดู จะได้อ้วนๆ

ก่อนจะออกจากจตุจักรก็แวะซื้อชาเย็น ที่คนขายเค้าจะร่ายรำอ่ะ แถวๆ สถานี MRT กำแพงเพชร เค้าคงต้องเมื่อยแขนน่าดูเลยเนอะ ต้องร่ายรำชาเย็นตลอดเวลา แต่ทำออกมาแล้วชาเย็นอร่อยดี

จากนั้นก็ไปเดินเล่นตรง Underground แล้วก็ไป Emporium ไปซื้อของขวัญไว้จับฉลากที่ Propaganda เราเลือกสมุดโน้ต ราคา 220 บาท เค้ากำหนดให้ของขวัญจับฉลากห้ามต่ำกว่า 200 บาท อยากจับได้ของตัวเองจัง

แล้วก็ไปกินข้าวเย็นกันที่ Pan Pan กินพิซซ่า Four Seasons กับสปาเกตตี้ อิ่มอร่อยแล้วก็ไปขับรถไปดูหนังกัน

อยากให้ทุกๆ วันรถไม่ติดแบบนี้จังเลย

ไปสอบ CU-TEP มา

STAEDTLER

เพิ่งกลับจากไปสอบ CU-TEP มา ไปสอบรอบ 8.30-12.00 ที่อาคารมหิตลาธิเบศร คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า จะได้มีเวลาไปนั่งอ่านหนังสือ เพราะเมื่อคืนอ่านหนังสือได้ไม่ถึงไหน ก็หลับไปเลย อุตส่าห์ซื้อหนังสือมา อ่านไปไม่ถึงครึ่งเลย เสียดายเพราะหนังสือเล่มนี้ดีทีเดียว ชื่อหนังสือ “รวมไวยากรณ์อังกฤษฉบับสมบูรณ์ English Grammar Complete Book” ของศูนย์หนังสือ TGRE เขียนโดย อาจารย์ชำนาญ ศุภนิตย์ และอาจารย์ ดร. สุทิน พูลสวัสดิ์

เมื่อคืนเอาดินสอมาเหลา เลือกมาแต่ 2B เพราะเรามีดินสอเยอะมาก แต่ไม่ค่อยมี 2B จะมีแต่ EE กับ 4B, 5B  เอาไว้วาดรูปตอนสมัยเรียน ถ้าเป็น 2B ไว้ทำข้อสอบ เราชอบของ STAEDTLER รุ่น tradition ที่เป็นสีแดง แต่สมัยเด็กๆ จะใช้ดินสอ HB รุ่น Norica เพราะมันเป็นสีๆ น่ารักมาก แต่พี่นุ๊กอ่ะ จะชอบใช้ที่เป็นสีเงิน หรือสีทอง รุ่น Pacific (จะอธิบายทำไมนี่ เรื่องดินสอพอแค่นี้ก่อน)

ไปถึงจุฬาฯ ตอน 7.30 แต่หาที่จอดไม่ได้เลย มีแต่รถวนหาที่จอด รถก็เยอะ เพราะจุฬาเข้มงวดกับการฝ่าฝืนกฎจราจร และการเปิด-ปิด ประตูมหาวิทยาลัยในวันเสาร์และอาทิตย์ ลานจอดรถแต่ละอัน ก็มีป้ายบอกว่า “สำหรับข้าราชการ และอาจารย์” เลยต้องไปจอดรถด้านนอก แล้วก็เดินมา สรุปไม่มีเวลาอ่านหนังสือ วิ่งอย่างเดียว และก็นึกถึงสมัยมาส่งน้องก้อยสอบ O-Net A-Net ตอนนั้นน้องก้อยยังเป็นสาวน้อยคอนแวนต์อยู่เลย

เราสอบชั้น 2 ห้อง 207 เลขที่นั่งก็เลขเป็นมงคลมาก เลขที่ 13 … ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นำอะไรเข้าไปเลยนอกจาก บัตรประชาชน บัตรสอบ ดินสอ 2B ปากกา ยางลบ (ไม่ให้แม้กระทั่งกระเป๋าใส่ดินสอ) ดีนะที่เราอ่านข้อบังคบพวกนี้ในเว็บก่อน ไม่งั้นต้องทิ้งไว้หน้าห้อง เราเก็บมือถือ กระเป๋าไว้ในรถ ตอนก่อนเริ่มสอบมีคนเป็นลมด้วย (สงสัยจะเครียด)

ข้อสอบมี 120 ข้อ มี Listening, Reading และ Writing เราว่า Listening ง่ายสุดเลย เราเกลียดข้อสอบ Reading ที่สุด อ่านแล้วก็ปวดหัวมากมาย ส่วน Writing ก็ไม่รู้ที่ทำไปถูกหรือเปล่า ไม่มีเวลาให้ทวนมาก เพราะทำเสร็จแต่ละ part เราจะมีเวลาทวนแค่ 5 นาที

ออกจากห้องสอบแบบมึนๆ แล้วก็ขับรถกลับบ้านมากินก๋วยเตี๋ยวเป็ด อิ่มอร่อย

All Alone on Monday

ไปส่งน้องก้อยที่ตึกเรียน น้องก้อยเปิดเทอมวันแรกแล้ว ไปรอน้องก้อยที่หอสมุด อ่านหนังสือ เนปาลประมาณสะดือ จนจบไปเลย สนุกดี อ่านแล้วไม่ได้อยากไปเที่ยวเนปาล แต่ได้แรงบันดาลใจในการทำอะไรที่เป็นความฝันให้สำเร็จ

ชอบที่นิ้วกลมเขียนว่า “สูง – ย่อมมีสูงกว่าเสมอ และจะสูงกว่ากว่ากว่ากว่ากว่าต่อไปไม่รู้จบ ผู้ที่ต้องการอยู่สูงสุดนอกจากจะเหนื่อยแล้ว ยังมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดอีกด้วย”

ตอนเที่ยงไปกินข้าวกับน้องก้อย และเพื่อนน้องก้อยอีกโขยง อัดแน่นมาในรถเล็กๆ ของเรา เรากินคะน้าหมูกรอบไข่เจียว แต่มันไม่อร่อย เหมือนข้าวผัดเบคอนของน้องก้อยเลยอ่ะ

จากนั้นเราก็ขับรถไปสัมภาษณ์งานแถวๆ เมืองทองธานี ขับเลยตึกไป เลยเอารถไปจอดที่ The Avenue แล้วนั่ง Taxi มาแทน เพราะเดี๋ยวจะช้ากว่าเวลานัด ถ้าต้องมารอกลับรถ

เราไปยืนรอพี่เค้าลงมารับ ก็มองๆ ว่ารอที่หน้าร้านไหนดี เหลือบไปเห็นร้าน Delifrance ก็เลยไปยืนตรงนั้น คือ ตอนนั่ง Taxi มา เราก็มองที่ใส่เอกสารเรา มันเป็นคำว่า Un Deux Troi (คือ 1 2 3 ในภาษาฝรั่งเศส) เราก็ครุ่นคิดว่า เราเรียนภาษาฝรั่งเศสตอน ม. ปลาย เราก็ยังจำคำบางคำได้ดี ไม่ลืม เป็นเรื่องที่ดีนะเนี่ย แล้วพอเดินมารอที่ร้าน Delifrance ก็คิดว่า ภาษาฝรั่งเศส นี่ก็อยู่ในชีวิตประจำวันจริงๆ อ่านป้ายชื่อร้านแล้วก็คิดว่า คนที่ไม่รู้ภาษาฝรั่งเศสคงอาจจะเคยอ่าน ร้านนี้ว่า เดลี่ฟรานซ์ แทนที่จะอ่าน เดลี่ฟรองซ์ บ้างหรือเปล่านะ ช่างไม่เท่เอาเสียเลย

และแล้วพอตอนโทรไปหาพี่เค้าว่ามาถึงแล้ว เราก็พูดว่า “ตอนนี้ส้มรออยู่หน้าร้าน เดลี่ฟรานซ์ นะคะ” … แป่ว …

การสัมภาษณ์ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พี่ทั้งสองน่ารักมาก จากนั้นเราก็เดินไปกรอกใบสมัครที่แผนก HR อีกตึกหนึ่ง แล้วก็นั่งรถ Taxi กลับมา The Avenue ไม่รู้จะทำอะไรดี ต้องรอน้องก้อยสอนท่าเต้นให้น้องๆ จน 21.00 น.

เลยไปดูหนังเรื่อง Max Payne ซึ่งมันเป็นเกมส์มาก่อนที่จะเอามาทำเป็นหนัง จริงๆ ไม่ได้อยากดู แต่มันไม่มีหนังเรื่องไหน จะเหมาะกับเวลา แถมบัตรก็ถูก 100 บาทเอง

เป็นการดูหนังคนเดียวครั้งแรก และในโรงหนังก็มีคนแค่ 4 คนเท่านั้น นั่งแถว D กันหมด ยกเว้นฝรั่งคนหนึ่ง นั่งอยู่ข้างหน้า พอต้องยืนตรงระหว่างเพลงสรรเสริญพระบารมี ฝรั่งมันก็นั่งเฉย ไม่ยืน สายตาคน 3 คน ก็มองไปที่มัน มันก็นั่งกระดิกเท้า และกินโค้กบ่อยมาก ไม่ธรรมชาติ ดูแปลกๆ คงรู้ว่าตัวเองทำอะไรที่มัน… ไม่น่ารัก

จริงๆ ถ้าเราไม่รู้วัฒนธรรม ความเป็นมา ของชาตินั้นอย่างแท้จริง เราจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าสิ่งที่เราคิดนั้นถูก และทำตามความคิดของเรา โดยไม่สนใจคนส่วนใหญ่ เราเป็นคนต่างถิ่น ก็ควรให้ความเคารพสิ่งที่คนในชาตินั้นเค้าเคารพกัน มันไม่ดีกว่าเหรอ มันดีกว่ามาทำตัวแบบนี้ เหมือนไม่ให้เกียรติประเทศที่มาอาศัยกันเลย

หนังเรื่องนี้ก็ไม่สนุกอีกต่างหาก เซ็งเป็ด ดูหนังเสร็จตอน 18.40 น. ก็ค่อยๆ ขับรถไปธรรมศาสตร์ ไม่ลืมซื้อโกโก้จากร้านดอยตุง ตรงปั๊ม JET (ปัจจุบันกลายเป็น ปตท) ไปฝากน้องก้อย

เดินไปในร้านบอกว่า “ช็อคโกแลตเย็นแก้วนึงค่ะ” คนขายมองหน้าเราเหมือนเราไปสั่งพิซซ่าถาดนึง เธอบอกเราว่า “ช็อคโกแลตไม่มี มีแต่โกโก้”

… อ่อ ค่ะๆ … กลัวแล้น

ได้อารมณ์เหมือนไปร้านก๋วยเตี๋ยว แล้วสั่ง “โค้ก 2 ขวด”

คนขายจะบอก “ไม่มี! มีแต่เป๊ปซี่”

คนญี่ปุ่น (อาจจะประเทศอื่นด้วย เช่น เยอรมัน) จะเรียกเครื่องดื่มจำพวก โค้ก และเป๊ปซี่ ว่า “โคล่า Cola” เพราะว่ามันเป็นน้ำรส โคล่า จะต่างก็แค่ว่ายี่ห้อไหน Coca-Cola หรือ ว่า Pepsi หรือ ฯลฯ

ชื่อเดิมของ Pepsi ตะก่อนเค้าก็เรียก Pepsi-Cola (อันนี้พ่อบอก)

เหมือนกิน จอลลี่แบร์ โคล่า ก็คือรสโคล่า

เคยได้ยินฝรั่งตอบคำถามพนักงานที่ถามว่าจะสั่งเครื่องดื่มอะไรว่า “Cola, please”
พนักงานตอบว่า “No Cola, Coke ได้เปล่า” ด้วยภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น ทว่าสื่อสารเข้าใจ แต่ฝรั่งคงแปลกใจ เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตามน๊า เพราะวัฒนธรรมการดำรงชีวิต แต่ละประเทศไม่เหมือนกัน

เฮ้อ อยู่คนเดียวเหงาจัง!

ไข่เจียว

ไข่เจียว

ไปเรียนภาษาญี่ปุ่น วันนี้เรียนเรื่องคำช่วย に (ni) อาจารย์ให้ยกตัวอย่างประโยค เราเลยบอกว่า たんし゛ょうひ゛に こいひ゛とに くつをもらいました。แปลว่า ในวันเกิดเราได้รับรองเท้าเป็นของขวัญวันเกิดจากแฟน 🙂

พอพักก็ลงไปกินข้าวเช้ากับน้องก้อย น้องก้อยกินไข่ดาวแฮมขนมปัง (ชุดอาหารเช้า) เหมือนเดิม แต่เราขอเปลี่ยนเป็นข้าวไข่เจียว เพราะตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา แม่ทำไข่ดาวแฮม ให้เรากินทุกวันเลย หน้ากลมเหมือนไข่แล้ว

เรียนเสร็จแล้วเราก็ไปเดินเล่นกันที่ Paragon น้องก้อยไปหาซื้อ CD ost. Step Up 1แต่ไม่มีเลย เราเดินไปดูหนังสือที่ SE-ED ซื้อหนังสือ “เนปาลประมาณสะดือ” ของนิ้วกลม มาอ่าน

ยังไม่ได้อ่านเลย มัวแต่เล่นเกม Raycity Online

Dunkin’ Donuts

Dunkin’ Donuts

ตื่นตอนน้องก้อยส่ง SMS มาหา คิดถึงน้องก้อย ก็เลยจะไปหาที่ธรรมศาสตร์ ก่อนไปก็กินข้าวเที่ยงกับพ่อแม่ก่อน จากนั้นก็ไป TOPS ไปซื้อ Dunkin’ Donuts 20 ชิ้น ไปฝากน้องก้อย เพื่อนน้องก้อย และรุ่นน้องของน้องก้อย และก็ไปซื้อสปาเกตตี้ให้น้องก้อยที่ S&P

พอดีเพิ่งทราบมาว่า Dunkin เค้าชนะ Starbucks ในการเทสต์แบบไม่บอกว่านี่คือกาแฟยี่ห้ออะไร (Blind Taste) ผลที่ออกมาพบว่าคนอเมริกันเลือกกาแฟของ Dunkin มากกว่าของ Starbucks

ไปถึงธรรมศาสตร์ตอนบ่ายสามโมง และก็รอน้องก้อยซ้อมหลีดจน 16.30 น. ฝนตกรถติดตลอดทาง น่าเบื่อจริงๆ

ระหว่างทางกลับบ้าน ผิงโทรมาหา ผิงเป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนโรงเรียนเบญจมินทร์ อยู่ด้วยกันตั้งแต่อนุบาล จนประถม 5 ผิงจะช่วยเราหางาน น่ารักมากเลย ขอบคุณนะจ๊ะ คุยกับผิงแล้วก็ตลกดี นึกถึงตอนเด็กๆ

ผิงถามว่านี่ไปส่งน้องก้อยมาเหรอ แหม… ถามแบบนี้ แสดงว่าเป็นแฟนบล็อก Juth.Net เพราะขนาดไม่ได้คุยกับมามากกว่าสิบปี ยังรู้ว่ากิจวัตรประจำวันมีแค่นี้ คือไปรับไปส่งน้องก้อย 🙂

ผิงบอกว่าดู hi5 ของเราแล้ว หวานมาก ยิ่งอัลบั้มหัวหิน ยิ่งหวานนนน เลยถามว่าเรารู้จักน้องก้อยได้อย่างไร และก็ถามว่า “น้องก้อยเค้ามาติดใจอะไรส้ม ถึงได้เป็นแฟนกันนี่” อิอิ ไม่รู้เหมือนกัน น้องคงหลงผิด ใช่ป่ะจ๊ะ

Akismet

กำ! แย่แล้ว กำลังเซตตัว Akismet ในบล็อก เพื่อช่วยป้องกัน spam comment ตอนกำลังใส่ API key และก็อะไรต่างๆ นาๆ ดันไปลบ comment ล่าสุดไปหมดเลย ลบไปทั้ง comment ของเพื่อน และ spam ลบไปหมดเลย

แง๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮือๆๆๆๆ เซ็งเป็ด

ไปดูน้องก้อยเล่น Audition ดีกว่า

Vichian Building Apartment

Lotus Basin

เนื่องจากมีเวลาว่างซักที ก็เลยมา re-design web อพาร์ทเมนต์ Vichian Building ซะเลย เริ่มต้นด้วยการไปถ่ายรูปตึก และภายในห้องก่อน จากนั้นก็ถ่ายรูปดอกไม้รอบๆ ตึก

นี่ก็บ่อบัวที่มีปลาทองว่ายอยู่ ตอนแรกมีแค่สองตัว ที่ได้มาจากการตักปลาทองคราวที่แล้ว ตัวที่เราตั้งชื่อ ได้หายไปจากบ่อบัวอย่างลึกลับ คาดว่าโดนนกคาบไปกิน เหลือแต่ตัวของน้องก้อย (วงกลมไว้ในภาพ) คือเจ้าคึกคัก เหลืออยู่ตัวเดียว ที่นับวันจะตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ (เหมือนน้องก้อยเลย) พ่อแม่สงสารกลัวมัันจะเหงา ก็เลยไปซื้อปลาทองมาเป็นเพื่อนมันอีกเต็มเลย

อยู่บ้านว่างๆ ก็ดีไปอย่าง ได้อยู่กับพ่อแม่ และก็มาดูตึก ได้ทำให้เห็นว่า เราต้องเก็บเงินไว้ทาสีตึกให้ได้เลย จะได้สวยๆ กว่านี้

Mr. P ONE MAN PUNKED

Mr. P ONE MAN PUNKED

วันนี้พวงกุญแจ Mr.P ONE MAN PUNKED ของ Propaganda ที่สั่งซื้อจาก shopping.co.th มาถึงแล้ว ซื้อกับเว็บนี้ จะถูกมากเลย ราคาปกติ 195 บาท ลดเหลือ 50 บาทเท่านั้นเอง พิเศษเฉพาะเว็บ shopping.co.th เท่านั้น

สั่งซื้อมาเพื่อใส่กุญแจบ้าน ที่ copy มาไว้ให้น้องก้อยโดยเฉพาะ ทีนี้เวลาน้องก้อยกลับบ้านเรา ก็ไม่ต้องโทรบอกแม่แล้ว ไขเข้ามาได้เลย

ช่วงนี้น้องก้อยสอบ บางทีเลิกจากมหาลัย ก็กลับบ้านมาอ่านหนังสือเลย ไม่ต้องรอเราเลิกงาน ก็เป็นห่วงนะเนี่ยกลับบ้านเอง …

Powered by WordPress | Theme: Motion by 85ideas.