Category: Ordinary Life


You Are What You Eat

Bread & Butter

ผลจากการที่บล็อกนี้กลายเป็นบล็อกของกิน ทำให้เจ้าของบล็อกน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ต้องลดน้ำหนักโดยด่วน อย่างน้อยก็ต้องให้ลดให้ได้ 4 กิโลกรัม (ตายแน่ๆ)

ต้องงดน้ำอัดลม ชาเย็น ช็อคโกแลตเย็น ไอศครีม เค้ก ชูครีม และอาหารเย็น ตอนเย็นกินแค่ขนมปัง กับนมแลคตาซอย 🙁

Benjamin Fellows

เสื้อที่เราออกแบบสำหรับกลุ่มเพื่อนเก่า (ตั้งแต่อนุบาลจนประถม 6) เสร็จแล้ว ต้องขอบคุณผิงที่เป็นคนติดต่อเรื่องทำเสื้อตลอด สั่งทำกันทั้งหมด 18 ตัว และก็หารค่าบล็อคสกรีนกัน ตกตัวละ 270 บาท

เวลานัดมีตติ้งกัน เราก็จะใส่เสื้อเหมือนกันแบบนี้ 🙂

 

Bad Luck

โชคร้ายรับตรุษจีน พ่อกับแม่ออกไปข้างนอก พ่อทำมือถือหล่น (มือถือที่เพิ่งซื้อให้เมื่อเดือนที่แล้ว) แล้วพ่อไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีจะเดินกลับไปหา แม่เห็นเลยว่ามีคนขับมอไซต์ผ่านมา พอเห็นว่าเป็นมือถือตกอยู่บนพื้น ก้มเก็บ แล้วเผ่นไปเลย 🙁

บอกไม่ถูกเลยอ่ะ มือถือที่อุตส่าห์เก็บตังค์ซื้อมา คนที่เป็นขโมย คนพวกนี้จิตใจทำด้วยอะไรอ่ะ เศร้าจริงๆ

Ache in my hand from using the computer

Ache in my hand from using the computer

ทำงานคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา ทำงานประจำ ทำงานฟรีแลนซ์ จะมีช่วงเวลาที่ไม่ได้จับเมาส์แค่ นอน กิน ขับรถ พอใช้เมาส์มากๆ เข้า ก็ปวดมือ ปวดนิ้ว ปวดข้อมือไปหมด

วันนี้แม่เลยไปซื้อถุงมืออันนี้มาให้ใส่ ไม่รู้ว่าใส่ทำงานแล้วจะดีขึ้นหรือเปล่าเนอะ

วัดไร่ขิง นครปฐม

หลวงพ่อวัดไร่ขิง

หลวงพ่อวัดไร่ขิง

วันอาทิตย์นี้ได้มีโอกาสไปวัดไร่ขิง ที่ จ. นครปฐม กับน้องก้อย ไปสักการะหลวงพ่อวัดไร่ขิง ไม่ได้มาตั้งนาน มาทีไรก็รู้สึกสบายใจ ทางวัดจัดระเบียบทุกอย่างดีจัง สะอาดเป็นระเบียบ

เสี่ยงเซียมซีได้ใบที่ 15 อ่านแล้วเป็นใบที่ดีมากๆ บอกว่าทำการค้าขายเจริญรุ่งเรืองด้วย

ตลาดน้ำดอนหวาย

ตลาดน้ำดอนหวาย

จากนั้นก็ไปตลาดดอนหวายกัน ไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูสับต้มยำอร่อยๆ และก็ซื้อฝอยทอง, ไข่เค็ม, ไก่ย่าง, ทับทิมกรอบ, เฉาก๊วย, มะม่วงกวน, มะนาว และชาเย็น

แล้วก็ไปรอโตโร่เก็บร้าน Eat Me First ที่ The Mall 2 รามคำแหง โตโร่บอกว่าขายดีมากๆ ดีใจจังเลย

พ่อแม่ไม่อยู่

พ่อแม่หนีไปสวีทกันที่พัทยา 3 วัน 2 คืน แต่ก่อนแม่จะไปเที่ยว แม่ทำหมูเค็ม กับไส้แซนวิชไก่ ไว้ให้กิน กลัวลูกๆ จะอดตาย แต่วันนี้นอกจากหมูเค็มของแม่แล้ว (ด้านขวามือสุด) เรามีพ่อครัวจำเป็น คือ พี่โอ๋ แสดงฝีมือทำกับข้าวให้เราทั้ง 5 คนกินด้วย

ทำออกมาเยอะแยะมากมาย กินกันไม่หมด (เก็บไว้กินพรุ่งนี้ต่อ)

พรุ่งนี้ที่ Reuters ให้พนักงาน ทำงานจากบ้านได้ เพราะเสื้อแดงจะมาประท้วงที่สีลม

หมวกกันน็อคช่วยได้

เจอรถมาชนท้ายอีกแล้วค่ะพี่น้อง คราวนี้ท่านเป็นมอเตอร์ไซต์ค่ะ ในตอนเช้าขณะที่รถกำลังติดแทบไม่กระดิก บนถนนลาดพร้าว เวลา 9.45 น. กำลังฟัง Greenwave อย่างเพลินๆ ก็มีเสียงดังปัง! เอาแล้วไง … งานยิ่งเยอะๆ อยู่ มองกระจกข้าง เห็นมอเตอร์ไซต์ล้มนอนอยู่ข้างหลัง

เราเดินลงไปดู ถามคำแรกว่า  “ขับไงฟะ” อิอิ ล้อเล่น … ถามว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า” คุณมอไซต์กำลังยืนขึ้นเก้ๆ กังๆ เราก็เลยมองไปด้านข้าง เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่บนถนน ข้างรถมอเตอร์ไซต์ท่าทางตกใจ คุณมอไซต์บอกว่า “เค้าข้ามถนนแล้วไม่ดู ผมหักหลบ แล้วล้มไถล เอาหัวมาชนกันชนรถคุณ” เรามองไปที่กันชนรถ จริงด้วย … กลมป๊อก เป็นรูปหัวคุณเลยค่ะ

ขณะนี้รถก็เริ่มบีบแตรลั่นถนน ประหนึ่งว่าดิชั้นเป็นเสื้อแดงมาปิดถนนอย่างงั้นแหละ ละเหี่ยใจจริงๆ แต่ก็เข้าใจว่ายิ่งอยู่นาน รถก็ยิ่งติดกว่าเดิม ผู้หญิงที่ข้ามถนนไม่ดู ก็รีบเดินจากไป ส่วนเราก็มองป้ายทะเบียนมอไซต์ แล้วบอกว่าไปหลบตรงหน้าคอนโด Le Champs Premium กันเถิดจะเกิดผล

เราเบียดจากเลนขวาสุด เข้าไปจอดหน้าคอนโด ส่วนมอไซต์ก็ค่อยๆ เข็นรถมา เราโทรเรียกประกัน MSIG ถ้าใครไม่รู้จะทำประกัันรถ กับที่ไหนดี ขอแนะนำ MSIG นะคะ บริการดีมาก มาเร็ว และสุภาพ ที่สุดของแจ้เลย

คุณมอไซต์เดินมาหาบอกว่า “ผมไม่มีใบขับขี่ และก็มีแค่ พ.ร.บ.”
เราก็แบบ “เอ่อ… งั้นไปหาใครมาทำเป็นขับแทนไหม เดี๋ยวจะโดนข้อหาไม่มีใบขับขี่”

เค้าก็โทรหาเพื่อนเข้าเยอะแยะ ว่าใครจะมาได้บ้าง เราก็โทรบอกแม่ เล่าให้แม่ฟังว่าคนขับไม่มีใบขับขี่ เราสงสารก็บอกว่าให้หาคนที่มีใบขับขี่จะได้ไม่มีปัญหา ซักพักเค้าก็เดินมาหาเราบอกว่า

“คุณช่วยคุยกับคนในโทรศัพท์ได้ไหม” เราก็นึกว่าประกัน หรืออะไร ก็รับมา
เสียงปลายสายบอกว่า “พี่ๆๆ พี่ช่วยบอกว่าพี่ผิดได้ไหม ประกันจะได้จ่าย เพราะเค้าไม่มีเงินจ่ายหรอก หรือไม่ก็ตกลงกันนอกรอบ แล้วพี่คิดว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ก็บอกมา”

อ้าว ไหงเป็นงี้ อ่าคะ เราก็อึ้งๆ ไป ตอบไปว่า “ไม่ได้หรอกค่ะ แจ้งประกันแล้วว่าโดนชน”
เค้าตอบว่า “ไม่เป็นไรๆ พี่บอกงี้นะ ว่าพี่จะเปลี่ยนเลนแล้วไม่ได้มอง แล้วตัดหน้ารถมอไซต์ ก็เลยชนท้ายเอา”
อะไรฟะ มันเรื่องอะไรกันนี่ เราไม่ได้ผิดซักหน่อย เราก็เริ่มกลัวละ ว่ามอเตอร์ไซต์จะหนี เราเลยตอบว่า “แค่นี้นะคะ”

คนขับมอไซต์ก็เดินมาคุยอีกบอกว่าให้เราพูดว่าเราผิด เราก็บอกว่าไม่อ่ะค่ะ เราเดินเลี่ยงไปไกลๆ โทรหาประกันว่า เค้าจะให้เรารับผิด ทางประกันบอกว่า พี่ไม่ต้องพูดกับเค้าเลยนะครับ รอเจ้าหน้าที่เราไปถึง แล้วเราจะจัดการทุกอย่างให้

ซักพักเค้าก็เดินมาบ่นว่า ประกันอยู่ไหนเหรอครับช้าจัง … เราว่าเราควรจะเป็นคนบ่นมากกว่านะเนี่ย งานเต็มเลย และมันก็ยังไม่ได้นานอะไรขนาดนั้นเลย เค้าคงร้อนใจมั้ง เพราะว่าคงจะต้องจ่ายเงิน

พอประกันมาก็จัดการทุกอย่างให้หมดเลย ไม่ต้องทำอะไรเลย เราบอกเจ้าหน้าที่ว่า เค้าจะให้บอกว่าเราผิด เจ้าหน้าที่หัวเราะแล้วบอกว่า จะเป็นงั้นได้ไงครับ ถ้าเราไปตัดหน้าเค้า แล้วหัวเค้าจะพุ่งมาชนกันชนเราได้ไง

พอทุกอย่างเสร็จ คุณมอไซต์ก็เดินมายิ้มให้เรา บอกว่า ผมไปก่อนนะครับ เราก็มองหน้าเค้า มองไปที่หมวกกันน็อคที่เค้าใส่ ว่าถ้าไม่มีหมวกนี้ เค้าคงหัวแตกเลือดสาดไปแล้ว เรื่องมันคงจะแย่กว่านี้มาก เค้ามองหน้าเรากลับ แล้วถามว่า “ครับ?”

เราบอกว่า “เปล่าค่ะ …”

พอคนเราถึงคราวคับขัน มันก็บีบบังคับให้เค้าต้อง “โบ้ย ความผิดให้คนอื่นเนอะ” คิดแล้วนึกถึงคนหน้าเหลี่ยมจริงๆ (เกี่ยวกันไหมนะ)

ขนม Eat Me First

หิวเมื่อไหร่ก็เปิดตู้เย็น เจอขนมของ Eat Me First เต็มตู้ ขนมที่เราชอบมากที่สุด คือ Lime Pie (พายมะนาว) รองลงมาก็ Banana Choc Mousse อร๊อยอร่อย

เมื่อวานที่ตึกอื้อจือเหลียง มีซ้อมหนีไฟตอน 16.00 น. บางคนก็ชิงลงลิฟท์มาก่อนที่สัญญาณจะดัง ส่วนเราก็นั่งทำงานติดพัน กลัวลืมว่าทำไปถึงไหน คิดว่าไว้ค่อยลงก็ได้ มันคงไม่ได้หนักหนาอะไร

พอสัญญาณดังลั่นกระหึ่มออฟฟิศ เราก็เดินลง … โห จากชั้น 30 ลงมาชั้น 1 พอถึงชั้น 20 ก็ไม่ไหวแล้วอ๊ะ แบบเมื่อยมากๆ จะตาย กว่าจะลงมาถึงชั้น 1 เหมือนจะเป็นลม เค้าซ้อมหนีไฟกันประมาณ 40 นาที เราเลยเดินไป Silom Complex ไปนั่งเล่นเนต เล่น Facebook แล้วก็เดินกลับมาทำงาน

ผลของการเดินลงมา ทำให้วันนี้ปวดขามาก ตึงไปหมด เดินแล้วเจ็บขามาก เวลาเดินต้องเดินช้าๆ ตอนขากลับบน MRT ดีนะ ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งช่วยเอา Laptop ไปถือให้ ทำให้ไม่หนัก ขอบคุณนะคะ

โปรดเอื้อเฟื้อที่นั่ง

ในทุกเช้าที่ตื่นไปทำงานจะง่วงมาก ตาจะปิด แถมแบก laptop กับกระเป๋าสะพายก็หนักจะแย่ เมื่อวันก่อนเดินเข้าไปในโบกี้รถไฟใต้ดินปั๊ป ก็มีผู้ชายลุกขึ้นยืน สะกิดให้เราไปนั่งที่ของเค้า

เราก็งงๆ ง่วงๆ นั่งลงไป ในใจก็คิดว่า เค้าคงจะออกสถานีต่อไป เห็นเราหอบของเยอะ ก็ลุกให้นั่งแน่ๆ นึกๆ ไปก็หลับตาง่วง ลืมตามาอีกที เอ๊ะ ผู้ชายคนนี้ก็ยังยืนอยู่ เราเลยนั่งคิดว่าเราเป็นกรณี “โปรดเอื้อเฟื้อที่นั่งแก่ ….” เด็กก็ไม่ใช่ หญิงมีครรภ์ก็ไม่ใช่ พระสงฆ์ก็ไม่ใช่ เหลือแต่ คนชรา กับสตรี … คิดไปคิดมา ก็จะหลับ ซักพักเค้าก็เอามือมาโบกๆ อยู่ข้างหน้าเรา เราเงยหน้าไปมอง เค้าถามว่าจำเค้าได้ไหม แจ๊คไง เราก็นึกอยู่ 5 วินาที .. อ๋อ แจ๊ค เพื่อนที่มหาลัยนั่นเอง อ่ะโธ่ เค้าบอกว่าเห็นเราใส่หูฟัง เลยไม่ได้ทัก แล้วเราก็จำเค้าไม่ได้ซะด้วย แหะๆ

ตอนกลับบ้าน หอบ laptop 2 เครื่องกลับบ้าน! เพราะ laptop ของน้องก้อยซ่อมเสร็จพอดี (ศูนย์ซ่อม HP อยู่ที่ตึกอื้อจื่อเหลียง) ก็ต้องแบกกลับมา หนักมาก แขนเกร็งเลย ปวดตุบๆ

แล้วรถไฟฟ้าใต้ดินก็เต็มแน่นสุุดๆ พอมีใครลุกจากที่นั่ง เราก็ไม่สามารถเบียดไปแย่งที่นั่งได้ ก็เลยยืนอยู่เฉยๆ จนมีคนนึงลุก ที่นั่งอยู่เยื้องๆ เราพอดี ซึ่งเราก็คิดว่าหมดสิทธิ์แน่ๆ แต่แล้วก็มีเสียงสวรรค์จากอาม่าคนหนึ่ง พูดว่า “หนูอ่ะ หนู มานั่งนี่ ถือของหนัก” พร้อมกวักมือเรียกเรามานั่ง ทุกคนก็เลยหันมามอง อิอิ เราก็ค่อยๆ เดินมานั่งอย่างสบาย แล้วก็หันไปขอบคุณอาม่า

นี่ถ้าไม่ได้อาม่าจัดแจงให้มานั่ง คงต้องแบกของหนักจนถึงสถานีลาดพร้าวเป็นแน่ ขอบคุณนะคะ

Powered by WordPress | Theme: Motion by 85ideas.