เป็นเรื่องที่ดีมากเลย ที่จะให้เงินผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) เดือนละ 500 บาท นึกถึงเวลาเห็นคุณยายแก่ๆ คอยเก็บขวดไปขาย หรือแบกขนมมาขาย แล้วคิดว่าเงิน 500 บาท ต่อเดือนจะมีประโยชน์กับท่านขนาดไหน ใครพบเจอคนแก่ อย่าลืมบอกท่านไปรับเงินนะคะ
ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้จ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยจ่ายเป็นรายเดือนๆ ละ 500 บาท
ตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 เป็นต้นไปนั้น
บัดนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ มีมติให้ออกระเบียบคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ เรื่อง
หลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ พ.ศ. 2552 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
คุณสมบัติผู้มีสิทธิ
1. สัญชาติไทย
2. อายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (เกิดก่อนวันที่ 1 เมษายน 2492)
3. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ ผู้รับเงินเบี้ยยังชีพตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย หรือ
กรุงเทพมหานคร ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงิน
เดือนค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จัดให้เป็นประจำ
หลักเกณฑ์/หลักฐาน
1. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายพร้อมสำเนา
2. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ในกรณีที่ประสงค์ขอรับเงินผ่านธนาคาร
3. ในกรณีที่มีความจำเป็นไม่สามารถมายื่นคำขอขึ้นทะเบียนรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ ผู้สูงอายุ
สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอแทนได้
4. ต้องยื่นคำขอขึ้นทะเบียนฯ ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธ์ – 15 มีนาคม 2552
5. แบบคำขอขึ้นทะเบียนฯ ปรากฏตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้
สถานที่ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนฯ
1. กรุงเทพมหานคร ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนฯ ที่สำนักงานเขตที่ตนเองมีชื่อตามทะเบียนบ้าน
2. ต่างจังหวัด (ส่วนภูมิภาค) ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนฯ ที่เทศบาล/อบต. ที่ตนเองมีชื่อตามทะเบียนบ้าน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์ประชาบดี โทร. 1300 หรือ ศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง
